เเดดเเรงเเค่ไหนก็ไม่หวั่น! เคล็ดลับปกป้องดวงตาจากรังสียูวี
ประเทศไทยตั้งอยู่ในละติจูดที่รับรังสีอาทิตย์เข้มอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงใกล้เที่ยงที่มุมดวงอาทิตย์สูง ทำให้การดูดกลืน/การกระเจิงในบรรยากาศลดลงและ ค่าดัชนีรังสียูวี (UV Index: UVI) มักอยู่ระดับ “สูงมาก–รุนแรงมาก” การประเมินความเสี่ยงจึงควรอาศัย UVI ซึ่งเป็นมาตรฐานสื่อสารสาธารณะ (WHO/WMO) เพื่อนำไปสู่การป้องกันดวงตาที่เหมาะสมตามเวลาและสถานที่จริงในไทย
🔬 รู้จักรังสียูวี: ชนิดไหนทำร้าย “ส่วนไหน” ของดวงตา
|
ปัญหาสายตา |
Single Lens |
Bifocal Lens |
Progressive Lens |
|---|---|---|---|
|
สายตาสั้น |
มองตั้งแต่ใกล้ถึงไกลได้ |
ไม่จำเป็นต้องใช้ |
|
|
สายตายาว |
มองใกล้เท่านั้น |
มองใกล้-ไกล |
มองใกล้-กลาง-ไกล (ไม่นิยมใช้) |
|
สายตาสั้น+ยาว |
เลือกใช้มองได้ระยะเดียว (ไม่แนะนำให้ใช้) |
มองใกล้-กลาง-ไกล (นิยมใช้) |
|
|
สายตายาว+ยาว |
|||
|
ข้อจำกัด |
- สายตายาว ต้องถอดออกเพื่อมองไกล - มีหลายค่าสายตา ต้องพกแว่นหลายอัน |
- ภาพกระโดด ปรับตัวยาก - มองระยะกลางไม่ได้ |
ราคาแพง |
🧠 รังสียูวีทำร้ายดวงตา อย่างไร
- เฉียบพลัน – Photokeratitis (กระจกตาไหม้แดด): เกิดจากโดสยูวีสูงในช่วงเวลาสั้น ๆ ทำให้เยื่อบุผิวกระจกตาถูกทำลาย ผู้ป่วยมักมีอาการปวดแสบตา น้ำตาไหล และแพ้แสงหลังสัมผัสแดดจัด/หิมะแดง/แสงจากงานเชื่อม
- เรื้อรัง: โดสยูวีสะสมสัมพันธ์กับ ต้อกระจก (ความขุ่นของเลนส์ตา), ต้อเนื้อ (pterygium) และความผิดปกติของส่วนหน้าลูกตาอื่น ๆ โดย “ชั่วโมงกลางแจ้งโดยไร้มาตรการป้องกัน” เป็นปัจจัยนำ
- สิ่งแวดล้อมที่ขยายโดส: เมฆบางไม่กันยูวีทั้งหมด และพื้นผิวสะท้อนสูง (น้ำ/ทราย/พื้นปูนซีเมนต์) เพิ่ม irradiance ที่รอบเบ้าตา แม้อยู่ในร่มใกล้แหล่งสะท้อนยังรับยูวีได้
👁️ โรคตาที่เกี่ยวข้องกับรังสียูวี
- Photokeratitis: ความเสียหายเฉียบพลันของเยื่อบุผิวกระจกตาหลังรับโดสยูวีสูงช่วงสั้น เกิดอาการปวดแสบ/น้ำตาไหล/แพ้แสง
ต้อกระจก (Cataract): การขุ่นของเลนส์ตาจากโดสยูวีสะสมระยะยาว ทำให้ตาพร่า ไวต่อแสง การรักษาหลักคือการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์
จุดภาพชัดเสื่อม (AMD): ความเสื่อมบริเวณมาคูลา ส่งผลต่อการมองเห็นส่วนกลาง ภาพบิดเบี้ยว/ไม่ชัด
ต้อเนื้อ (Pterygium): การหนาตัวของเยื่อบุตาลุกลามเข้ากระจกตาเกี่ยวข้องกับยูวี ลม และฝุ่น หากลามมากอาจต้องผ่าตัด
มะเร็งผิวหนังรอบดวงตา: เปลือกตาและผิวรอบดวงตาบอบบาง โดสยูวีสะสมเพิ่มความเสี่ยง ต้องเฝ้าระวังรอยโรคผิดปกติอย่างสม่ำเสมอ
🕶️ เคล็ดลับเลือกแว่นกันแดด ปกป้องดวงตาจากรังสียูวี
- หลักการสำคัญ: ยูวีทะลุเมฆและสะท้อนจากพื้นผิวได้ → เพิ่มความเสี่ยง ต้อกระจก, photokeratitis, AMD (จุดภาพชัดเสื่อม), ต้อเนื้อ และ มะเร็งผิวหนังรอบดวงตา
- มาตรการที่มีประสิทธิผลที่สุด: สวม แว่นกันแดดคุณภาพ ทุกครั้งที่อยู่กลางแจ้ง ร่วมกับหมวกปีกกว้าง เพื่อลดทั้งรังสีโดยตรงและรังสีที่กระเจิง/สะท้อน
- ประเมินก่อนซื้อ: ควร ตรวจตา กับ จักษุแพทย์/นักทัศนมาตร เพื่อยืนยันค่าสายตา การทำงานสองตา (binocular vision) และรับคำแนะนำสเปกเลนส์ที่เหมาะกับงาน/กิจกรรม
วิธีการปกป้องดวงตาจากรังสียูวีในไทย
เลี่ยงแดดตรงช่วง 10:00–16:00 โดยเฉพาะวันที่ UVI สูง
ช่วงเวลาดังกล่าวดวงอาทิตย์อยู่มุมเงยสูง ส่งผลให้ irradiance ของ UVB/UVA ที่พื้นดินเพิ่มขึ้น และระยะทางผ่านบรรยากาศสั้นลง จึงลดการดูดซับ/กระเจิงของชั้นบรรยากาศ การจำกัดกิจกรรมกลางแจ้งช่วงนี้ช่วยลด ocular UV dose ที่กระทบกระจกตา เลนส์ตา และจอประสาทตา
หมวกปีกกว้างร่วมกับแว่นกันแดดที่ป้องกันรังสี UV 100% (ผ่าน ISO 12312-1)
หมวกปีกกว้างลด direct irradiance และ scatter ที่ระดับเบ้าตา ขณะที่แว่นกันแดดที่ระบุ “UV400” หรือ “100% UVA/UVB” (และทดสอบตามมาตรฐานแว่นกันแดดทั่วไป/การขับขี่) ช่วย attenuate รังสีในช่วง 280–400 nm อย่างสม่ำเสมอ การใช้ร่วมกันลดทั้งรังสีตรงและรังสีสะท้อน/กระเจิงที่เข้าสู่ตา
เลือกกรอบโค้งโอบ (wraparound) เพื่อจำกัดการรั่วของยูวีจากด้านข้าง
แม้เลนส์กันยูวีได้ แต่ peripheral stray light ยังสามารถเล็ดรอดช่องว่างข้างกรอบเข้าสู่กระจกตาและเยื่อตาได้ กรอบโค้งโอบและเลนส์ขนาดใหญ่เพิ่ม ocular coverage ลดโดสยูวีจากมุมเฉียง รวมถึงลดลมและอนุภาคแขวนลอยที่รบกวน tear film (ลดตาแห้ง/ระคายเคือง)
พกน้ำตาเทียมเมื่ออยู่กลางแจ้ง/ลมแรงนาน ๆ
ลมและอากาศแห้งเร่งการระเหยของ ชั้นน้ำตา (precorneal tear film) ทำให้ความไม่สม่ำเสมอของผิวตาเพิ่มขึ้น (tear film instability) ส่งผลให้กระจายแสง (forward scatter) และความไวต่อแสงเพิ่มขึ้น น้ำตาเทียมช่วยคงเสถียรภาพของฟิล์มน้ำตา ลดอาการแสบตา/ตาล้า
ให้ความสำคัญกับเด็กและวัยรุ่นเป็นพิเศษ
เด็กมี transmittance ของสื่อแก้วตาสูงกว่า ผู้ใหญ่ (เลนส์ตายังไม่เหลือง) รูม่านตาใหญ่กว่า และมี cumulative lifetime exposure สูงกว่า จึงรับยูวีต่อหน่วยเวลาและสะสมตลอดชีวิตมากกว่า การเริ่มป้องกันตั้งแต่เล็กลดความเสี่ยงของโรคตาในระยะยาว (เช่น ต้อเนื้อ ต้อกระจก)
เผชิญแสงสะท้อนถนน/ผิวน้ำบ่อย ควรใช้เลนส์ Polarized ร่วมกับ UV100%
แสงสะท้อนแนวระนาบ (horizontally polarized glare) จากพื้นถนนเปียก ฝากระโปรงรถ หรือผิวน้ำ เพิ่มความจ้าและลดคอนทราสต์ เลนส์ polarized ลดแสงสะท้อนดังกล่าว ทำให้การมองเห็นสบายและคมชัดขึ้น แต่ไม่ทดแทนการกรองยูวี จึงต้องใช้ร่วมกับเลนส์ที่ระบุ UV400/100% UVA-UVB
ตรวจเช็กค่า UVI รายวันจากกรมอุตุนิยมวิทยา (TMD) ก่อนทำกิจกรรมกลางแจ้ง
UV Index เป็นตัวชี้ความเข้มรังสียูวี ณ สถานที่/เวลาเฉพาะ ช่วยกำหนดระดับการป้องกันที่เหมาะสม (แว่นกันแดด หมวก ร่มเงา ระยะเวลาสัมผัส) การอ้างอิง UVI เฉพาะพื้นที่ช่วยปรับพฤติกรรมให้สอดคล้องกับ risk-based protection ในบริบทภูมิอากาศไทย
👓 ANZ STUDIO มาตรฐานความสบายตาที่พิสูจน์ได้
คัดเลือกแว่นกันแดด/เลนส์ ผ่านมาตรฐาน ฟิตติ้งทรง โค้งโอบ ตามรูปหน้า ลดรังสีซึมด้านข้าง แนะนำเลนส์ Polarized / Photochromic / Prescription Sun ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ในไทย ทำให้คุณ มองเห็นชัด สบาย ปลอดภัย แม้แดดไทยจะ “จัดจ้าน” แค่ไหนก็ตาม













