บทความ

ทำความรู้จัก “เลนส์สายตา” สั้น-ยาว ใช้เลนส์เหมือนกันมั้ย?

ANZ ArticleGlasses Type 01 11zon 1

ปัญหาด้านสายตาและการมองเห็น เป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด การเข้าใจประเภทของ เลนส์สายตา จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณเลือกแว่นสายตาที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นปัญหา สายตาสั้น ที่ทำให้มองเห็นระยะไกลไม่ชัดเจน หรือปัญหา สายตายาว ที่มักเกิดขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้นและทำให้มองเห็นระยะใกล้ได้ลำบาก

ในบทความนี้ เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับเลนส์ประเภทต่างๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อให้เหมาะสมกับปัญหาด้ัานสายตาที่แตกต่างกัน

โดยเราจะมาเริ่มกันที่เลนส์ประเภทหลักๆ ที่สามารถใส่ได้ตลอดทั้งวันกันก่อน ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีข้อจำกัดด้านการใช้งานที่ไม่เหมือนกัน ไม่ได้เหมาะกับปัญหาค่าสายตาทุกประเภท โดยเฉพาะเมื่อเราอายุเยอะขึ้น ค่าสายตายาวตามวัยก็จะตามมาและทำให้ปัญหาสายตามีความซับซ้อนมากขึ้นตามไปด้วย ทำให้ใช้เลนส์ประเภทเดิมไม่ได้อีกต่อไป

ประเภทของเลนส์ : แก้ไขปัญหาสายตาที่แตกต่างกัน

1. เลนส์ชั้นเดียว (Single Vision)

เป็นเลนส์สายตาทั่วไป ใช้แก้ปัญหา สายตาสั้นอย่างเดียว , สายตายาวอย่างเดียว หรือมี สายตาเอียง ร่วมด้วย ซึ่งตลอดทั้งชิ้นเลนส์จะมีค่าสายตาแค่เพียงค่าเดียวเท่านั้น เหมาะสำหรับวัยรุ่นหนุ่มสาว (ต่ำกว่า 40 ปี) หรือผู้ที่มีปัญหาด้านการมองเห็นแค่ในระยะใดระยะหนึ่ง

  • สำหรับสายตาสั้น (Myopia) ใช้มองระยะใกล้ ไปจนถึงระยะไกลได้ โดยที่ภาพจะยังคงชัดเจนในทุกระยะการมองเห็น
  • สำหรับสายตายาว (Hyperopia) ใช้มองระยะใกล้ได้เท่านั้น หากใส่มองระยะไกล ภาพจะเบลอ ฉะนั้นถ้าจะมองไกล จำเป็นต้องถอดแว่นออก ซึ่งจะทำให้ยุ่งยากขึ้นเล็กน้อย ดังนั้นในเลนส์ชั้นเดียวสำหรับคนสายตายาว จะเป็นเพียงเลนส์เฉพาะทางเพื่อการใช้งานที่เฉพาะเจาะจงเท่านั้น เช่น ใช้อ่านหนังสือ
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่มีสายตายาวและสั้นพร้อมกัน ซึ่งเริ่มพบได้ในวัยตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไป ที่มีค่าสายตาสั้นมาก่อนหน้านี้ แต่พออายุมากขึ้น จะมีอาการสายตายาวตามวัยร่วมด้วย ทำให้มีปัญหาสายตาทั้งสั้นและยาวพร้อมกันนั่นเอง

จะเห็นได้ว่า สำหรับเลนส์ชั้นเดียว ค่อนข้างที่จะมีข้อจำกัดสำหรับผู้ที่มีสายตายาว แต่หากว่าคุณมีค่าสายตาสั้น หรือสายตาสั้น+เอียง จะสามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสมและตอบโจทย์ที่สุด

2. เลนส์สองชั้น (Bifocal Lens)

เป็นเลนส์สายตาที่มี 2 ระยะการมองเห็น ซึ่งตัวเลนส์จะมี 2 ชั้นตามชื่อ และแต่ละชั้นก็จะมีค่าสายตาที่แตกต่างกัน คือ เลนส์ส่วนบนใช้มองระยะไกล และ เลนส์ส่วนล่างใช้มองระยะใกล้ดยที่ตัวผิวเลนส์จะมีเส้นแบ่งที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นเลนส์สองชั้น เหมาะสำหรับกลุ่มคนที่มีปัญหาค่าสายตา ดังนี้

  • สายตายาวตามวัย (Presbyopia) ที่มักมีปัญหาสายตาสั้นร่วมด้วย ทำให้มองใกล้ก็เบลอ มองไกลก็ไม่ชัด
  • สายตายาวแต่กำเนิด (Hyperopia) ที่มีภาวะสายตายาวตามวัยร่วมด้วย เมื่ออายุถึงวัยประมาณ 40 ปีขึ้นไป และมีค่าสายตายาว 2 ค่า

เจ้าเลนส์สองชั้นจะช่วยแก้ปัญหาการใช้แว่นตาสลับกัน 2 อัน ทำให้ไม่ต้องพกแว่นเยอะ และไม่ต้องคอยถอดๆ ใส่ๆ ตลอดเวลา

แต่การที่ผู้สวมใส่ สามารถมองเห็นชั้นเลนส์ได้อย่างชัดเจน ทำให้ใส่แล้วไม่สบายตามากนักสำหรับการใช้งานนานๆ ในชีวิตประจำวัน เพราะเมื่อมองเลนส์ใกล้กับไกลสลับกันไปมา ภาพที่เห็นก็จะกระโดดแยกชั้นกันชัดเจน (Image Jump) ทำให้บางคนปรับตัวได้ยาก รู้สึกเวียนศีรษะได้ง่าย อีกทั้งยังทำให้แว่นตาดูไม่สวยงามอีกด้วย ดังนั้น เลนส์ชนิดนี้จึงไม่เป็นที่นิยมมากนักในปัจจุบัน

3. เลนส์หลายชั้น หรือ เลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive Lens)

นวัตกรรมเลนส์สายตาที่กำลังเข้ามาแทนที่เลนส์สองชั้น ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาการมองเห็นให้คมชัดได้ทุกระยะในเลนส์เดียว ตั้งแต่การมองระยะใกล้-กลาง-ไกล โดยที่ตัวเลนส์จะไม่มีรอยต่อหรือขอบของเลนส์ให้เห็น ทำให้สามารถเปลี่ยนระยะการมองเห็นได้อย่างเป็นธรรมชาติ ดังนั้นตัวเลนส์จะมีโครงสร้างที่ซับซ้อน โดยจะมีการแบ่งพื้นที่ของเลนส์ออกเป็นโซนต่างๆ ดังนี้

  • ส่วนบน : ใช้มองระยะไกล (Driving Zone)

  • ส่วนกลาง : ใช้มองระยะกลาง เช่น การทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ (Intermediate Zone)

  • ส่วนล่าง : ใช้มองระยะใกล้ เช่น การอ่านหนังสือ (Reading Zone)

การไล่ระดับค่าสายตาอย่างค่อยเป็นค่อยไปของเลนส์โปรเกรสซีฟ ทำให้การเปลี่ยนโฟกัสภาพจากระยะหนึ่งไปอีกระยะหนึ่งเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ทำให้เกิดภาพกระโดด (Image Jump) ทำให้เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสายตา ดังนี้

  • สายตาสั้นและสายตายาวตามวัยร่วมกัน

  • สายตายาวแต่กำเนิดและสายตายาวตามวัยร่วมกัน

  • ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่เริ่มมีอาการสายตายาวตามวัยและต้องการความสะดวกสบายในการมองเห็นในชีวิตประจำวัน โดยไม่ต้องคอยถอดแว่นเข้า-ออกตลอดเวลา

  • ผู้ที่ต้องการแว่นตาเพียงคู่เดียว สำหรับใช้งานในทุกกิจกรรม โดยไม่ต้องสลับแว่นไปมา

จะเห็นได้ว่าเลนส์แต่ละประเภท มีทั้งข้อดี ข้อเสีย และเหมาะกับปัญหาสายตาที่แตกต่างกัน

ปัญหาสายตา

Single Lens

Bifocal Lens

Progressive Lens

สายตาสั้น

มองตั้งแต่ใกล้ถึงไกลได้

ไม่จำเป็นต้องใช้

สายตายาว

มองใกล้เท่านั้น

มองใกล้-ไกล

มองใกล้-กลาง-ไกล

(ไม่นิยมใช้)

สายตาสั้น+ยาว

เลือกใช้มองได้ระยะเดียว (ไม่แนะนำให้ใช้)

มองใกล้-กลาง-ไกล

(นิยมใช้)

สายตายาว+ยาว

ข้อจำกัด

- สายตายาว ต้องถอดออกเพื่อมองไกล

- มีหลายค่าสายตา ต้องพกแว่นหลายอัน

- ภาพกระโดด ปรับตัวยาก

- มองระยะกลางไม่ได้

ราคาแพง

สำหรับลูกค้า ANZ STUDIO ปัจจุบันทางเราได้มีบริการตัดเลนส์โดยแบรนด์ชั้นนำที่น่าเชื่อถืออย่าง ESSILOR , APOLLO เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีค่าสายตา ให้สามารถใช้แว่นตาในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

หากลูกค้าไม่แน่ใจว่าจะเลือกเลนส์รุ่นใด หรือยังไม่มีใบค่าสายตา สามารถสอบถามเพิ่มเติมกับแอดมินได้ ทีมงานยินดีให้คำแนะนำเพื่อช่วยเลือกเลนส์ที่เหมาะสมที่สุดกับการใช้งานของลูกค้าค่ะ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *