แก้เลนส์หนา ให้บางเฉียบ สำคัญยังไง? : สิ่งที่ควรรู้ไว้ ก่อนตัดแว่นตา
เลนส์ย่อบาง คืออะไร?
สำหรับคนที่มีค่าสายตาเยอะ สายตาสั้น สายตายาว ตัดแว่นตาแต่ละทีเลนส์หนาเป็นนิ้ว
นอกจากจะมีผลกับความสวยงามแล้ว ยังทำให้คุณภาพการมองเห็นและความสบายตอนสวมใส่ลดลงอีกด้วย เพราะถ้ามันยิ่งหนา แน่นอนว่าก็จะยิ่งหนัก ทำให้ใส่แว่นนานๆ ไม่ได้ และก็ไม่สามารถตัดใจไปใส่คอนแท็กเลนส์แทนแว่นได้เหมือนกัน เพราะว่าสำหรับคนทีมีปัญหาตาแห้งมากๆ แล้ว แว่นตายังคงเป็นเซฟโซนอยู่ดี
แต่ไม่ต้องกังวลจนเกินไป เพราะเทคโนโลยีด้านเลนส์แว่นตานั้นได้มีการพัฒนากันอยู่ตลอดเวลา ทั้งในเรื่องของวัสดุ โครงสร้าง และลักษณะการย่อบาง เพื่อให้ได้เลนส์ที่บาง เบา และลดการบิดเบือนของภาพมากที่สุด ทำให้เราสามารถมองภาพผ่านเลนส์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ และใส่ได้ยาวนานตลอดทั้งวัน
ย่อเลนส์ให้เบาขณะสวมใส่ พร้อมช่วยปรับลุคให้ทันสมัย
วัสดุกับการย่อบาง : เพื่อความเบา สวมใส่สบาย
เลนส์ย่อบาง หรือ การย่อบางเลนส์ เป็นกระบวนการที่ทำให้เลนส์มีน้ำหนักเบาและบางลงได้ โดยอาศัยค่า ดัชนีหักเหแสง (Refractive Index) ของวัสดุเลนส์แต่ละชนิด
ยิ่งค่า Index สูง แสงก็จะยิ่งหักเหได้มากขึ้น ทำให้ผู้ผลิตสามารถเจียระไนเลนส์ให้บางลงได้
วัสดุกำหนดค่า Index :
ค่า Index เป็นคุณสมบัติเฉพาะตัวของ "วัสดุ" เลนส์นั้นๆ ซึ่งถูกกำหนดมาตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตเม็ดพลาสติกแล้ว ไม่ใช่คุณสมบัติที่เพิ่มได้ในภายหลังด้วยกระบวนการย่อบาง
ทีนี้เรามาดูกันว่า ค่า Index หรือการย่อบางแต่ละระดับนั้น ใช้วัสดุอะไรกันบ้าง
1. มิดอินเด็กซ์ (Mid-Index Plastic) : Index 1.56
- เป็นการย่อบางระดับเริ่มต้น สำหรับคนที่มีค่าสายตาไม่เยอะมาก
- เหมาะกับกรอบแว่นแบบกรอบเต็ม
2. โพลีคาร์บอเนต (Polycarbonate) : Index 1.59
- เป็นวัสดุที่มีความเหนียวและทนทานสูงมาก ทนต่อแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับตัดแว่นกีฬาและแว่นเด็กที่มีค่าสายตาไม่สูงมาก เนื่องจากค่า Index ของวัสดุนี้จะคงที่อยู่ที่ 1.59 เท่านั้น
- ใช้ได้กับกรอบแว่นทุกประเภททั้งกรอบแว่นแบบเต็ม กรอบเจาะ และ กรอบเซาะร่อง
3. ไฮอินเด็กซ์ (High-Index Plastic) : Index 1.60 / 1.67 / 1.70 / 1.74 / 1.76
- เป็นกลุ่มวัสดุที่นิยมใช้ตัดเลนส์ย่อบางมากที่สุด ตอบโจทย์ผู้ที่มีค่าสายตาสูงมากๆ โดยเฉพาะ
- Index 1.60 / 1.67 ปกติจะใช้ได้กับกรอบแว่นทุกประเภท แต่ค่า Index อื่นๆ ที่สูงกว่านี้ วัสดุอาจมีความเปราะบางกว่าเล็กน้อย (แล้วแต่แบรนด์ ถ้าร้านแจ้งว่าตัดได้ก็จบ)
โครงสร้างเลนส์ : เพื่อคุณภาพการมองเห็นที่ดีขึ้น
ความบางของเลนส์ นอกจากค่า Index แล้ว "โครงสร้าง" ก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้เลนส์บางลงได้อีก อีกทั้งยังช่วยปรับปรุงในเรื่องของมุมมองภาพ และเพิ่มความสวยงามให้ผู้สวมใส่ได้อีกระดับ
โครงสร้างเลนส์ที่ "แบนขึ้น" จะช่วยลดภาพบิดเบือนที่ขอบเลนส์ ทำให้มองภาพได้กว้างและเป็นธรรมชาติขึ้น
นอกจากนี้ยังทำให้ดวงตาของผู้สวมใส่มีขนาดใกล้เคียงกับความเป็นจริง ไม่เกิดการขยายดวงตา ในคนที่สายตายาว และไม่เกิดการย่อดวงตาให้เล็กลง ในคนที่สายตาสั้น
ซึ่งโครงสร้างของเลนส์หลักๆ จะมีอยู่ 3 แบบ ดังนี้
1. เลนส์ทรงกลม (Spheric Lens) :
- เป็นโครงสร้างพื้นฐาน ราคาถูกและผลิตง่าย
- มีพื้นผิวโค้งเป็นทรงกลมเหมือนผิวของลูกบอล ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
- เลนส์จะมีความหนามากที่บริเวณขอบ โดยเฉพาะในเลนส์ที่มีค่าสายตาสั้นมากๆ
เกิดการบิดเบือนของภาพ (Distortion) ที่บริเวณขอบเลนส์ ทำให้ภาพดูโค้งกว่าความเป็นจริง
2. เลนส์โค้งแบน ด้านเดียว (Aspheric Lens) :
- เป็นการออกแบบพื้นผิวเลนส์ให้มีความโค้งที่แบนและซับซ้อนกว่าเลนส์ทรงกลม
- ช่วยลดความโค้งที่บริเวณขอบเลนส์ลง ทำให้มีความบางและเบากว่าเดิม
- ลดการบิดเบือนของภาพในบริเวณขอบเลนส์ ทำให้มองเห็นภาพได้กว้างและเป็นธรรมชาติขึ้น
- มีราคาสูงกว่าเลนส์ทรงกลม และต้องผลิตด้วยความแม่นยำสูง
3. เลนส์โค้งแบน สองด้าน (Double Aspheric Lens) :
- นำการออกแบบแอสเฟอริกมาใช้กับ พื้นผิวด้านหน้าและด้านหลัง ของเลนส์
- ช่วยให้เลนส์บางและเบามากที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาสูงมากๆ
- ให้คุณภาพการมองเห็นที่ดีที่สุด ลดการบิดเบือนของภาพในทุกมุมมอง
- ทำให้ภาพที่มองเห็นเป็นธรรมชาติและสบายตาที่สุด
นอกจากนี้ ขนาดและรูปทรงของกรอบแว่นยังมีผลกับความเบาด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะคนสายตาสั้นที่ใช้เลนส์เว้า
- ขนาด : ถ้ากรอบแว่นยิ่งมีขนาดเล็ก ตัวเลนส์ที่จะนำมาใส่กรอบก็จะยิ่งต้องทำให้เล็กลง
- รูปทรง : กรอบทรงกลมหรือทรงรี จะดีที่สุดหากต้องการให้แว่นมีน้ำหนักเบา ทำให้สามารถตัดขอบที่มีความหนาออกไปได้เยอะที่สุด
จะเห็นได้ว่าทั้ง ค่า Index และ โครงสร้างเลนส์ เป็นสิ่งที่ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างเลนส์ที่ บางที่สุด และให้ คุณภาพการมองเห็นดีที่สุด แต่แน่นอนว่าก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่แพงขึ้น ดังนั้น ก็ต้องพิจารณาในเรื่องของงบประมาณร่วมด้วย ซึ่งถ้าค่าสายตาไม่ได้เยอะมาก ก็อาจจะแค่ย่อบางเริ่มต้นก็เพียงพอแล้ว
สำหรับลูกค้า ANZ STUDIO ปัจจุบันทางเราได้มีบริการตัดเลนส์โดยแบรนด์ชั้นนำที่น่าเชื่อถืออย่าง ESSILOR , APOLLO เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีค่าสายตา ให้สามารถใช้แว่นตาในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
หากลูกค้าไม่แน่ใจว่าจะเลือกเลนส์รุ่นใด หรือยังไม่มีใบค่าสายตา สามารถสอบถามเพิ่มเติมกับแอดมินได้ ทีมงานยินดีให้คำแนะนำเพื่อช่วยเลือกเลนส์ที่เหมาะสมที่สุดกับการใช้งานของลูกค้าค่ะ
